สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ กรุยทางการค้า การลงุทน SMEs ไทย - อินเดีย

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ กรุยทางการค้า การลงุทน SMEs ไทย - อินเดีย

วันที่นำเข้าข้อมูล 29 มิ.ย. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565

| 584 view

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ กรุยทางการค้า การลงุทน SMEs ไทย - อินเดีย

                  

                   บริษัทสัญชาติอินเดียที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก มักเป็นรายใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในประเทศมาอย่างยาวนานอย่างบริษัท TATA ธุรกิจด้านซอฟแวร์ และเหล็ก หรือบริษัท Aditya Birla ธุรกิจเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ และสิ่งทอ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทขนาดกลางและขยนาดย่อม หรือ SMEs ของอินเดีย ถือได้ว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และมีมูลค่าธุรกิจเติบโตอย่างมีนัย ซึ่งรัฐบาลกลางอินเดียพยายามสนับสนุนธุรกิจกลุ่มนี้ ผ่านมาตรการต่าง ๆ อาทิ Make in India หรือ Start - up India เป็นผลให้ SMEs และ Start - ups ขึ้นแท่นเป็นกลุ่มธุรกิจที่บทบาทอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ และมีศักยภาพในการขยายตลาดในต่างประเทศเช่นเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของอินเดีย

                   ธุรกิจส่วนใหญ่ในอินเดียเป็น SMEs ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ  60 ล้านบริษัท คิดเป็นร้อยละ 95 ของธุรกิจทั้งหมด มีมูลค่าการผลิตในภาคอุตสาหกรรมคิดเป็นร้อยละ 45 ของการผลิตทั้งประเทศ และร้อยละ 40 ของการส่งออกมาจากธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งธุรกิจกลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตได้อีกมากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และเป็นกลุ่มที่รัฐบาลกลางอินเดียสนับสนุนการลงทุน รวมทั้งการส่งออกและค้าขายกับคู่ค้าในต่างประเทศ อย่างไรก็ดี การค้าและการลงทุนของ SMEs ไทยและอินเดียกลับไม่หวือหวาน่าจับตามองเท่าใดนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดการศึกษาตลาดระหว่างกัน และการสร้างเครือข่ายธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านมา ต้องยอมรับด้วยว่าผู้ประกอบการไทยหลายรายมองข้ามอินเดีย และรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะเป็นหุ้นส่วนกับอินเดีย ทำให้บรรยากาศการทำธุรกิจของทั้งสองฝ่ายไม่คึกคักเท่าที่ควร

                   จากเหตุผลข้างต้น สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ สาธารณรัฐอินเดีย จึงได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจสัมพันธ์ระว่างไทยกับอินเดียอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้แก่นักธุรกิจของทั้งสองฝ่าย สร้างความเข้าใจ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งล่าสุด สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ดำเนิน“โครงการส่งเสริมธุรกิจสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินเดีย” ระหว่างวันที่ 28 พ.ค. - 3 มิ.ย. 2561 โดยเน้นสาขาธุรกิจอาหารแปรรูป และบรรจุภัณฑ์รักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสาขาที่ไทยและอินเดียมีศักยภาพ

                   ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการประกอบด้วยผู้แทนระดับสูงจากหน่วงานภาครัฐของรัฐมหาราษฏระ ได้แก่ นาย Harshadeep Kamble เลขาธิการ (อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม) และกรรมาธิการด้านการพัฒนา (อุตสาหกรรม) จากหน่วยงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนประจำรัฐมหาราษฏระ (Maharashtra Industry, Trade And Investment Facilitation Cell - MAITRI) นาย Krishna Chhabanrao Jadhav เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมหาราษฏระ และภาคเอกชนในรัฐคุชราตและรัฐมหาราษฏระ นำโดยนาย Shailesh I. Patwari ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งรัฐคุชราต (Gujarat Chamber of Commerce and Industries - GCCI) และผู้แทนภาคเอกชนจากกลุ่มธุรกิจ SMEs สาขาอาหารแปรรูปในรัฐมหาราษฏระ

                    ในโอกาสดังกล่าว สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้นัดหมายให้คณะพบหารือกับผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ บีโอไอ และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) รวมทั้งผู้บริหารขององค์กรเอกชน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาธุรกิจไทย – อินเดีย และรองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

                   สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดให้คณะได้ศึกษาดูงานที่เมืองนวัตกรรม หรือ Food Innopolis เพื่อเรียนรู้แนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการด้านอาหาร และการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมในกระบวน การเพิ่มมูลค่าและคุณภาพสินค้าอาหาร ตามแนวทางนโยบาย Thailand 4.0 ภาครัฐและนักธุรกิจอินเดียต่าง        ชื่นชมการดำเนินการ  และศักยภาพด้านการพัฒนาสินค้าเกษตรและอาหารของไทย รวมทั้งสนใจที่จะเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการเมืองนวัตกรรมอาหารกับฝ่ายไทย นอกจากนั้น สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดให้คณะพบหารือกับนายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เพื่อศึกษาแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และคำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของเกษตรกร  

                   ไม่เพียงอาหารแปรรูปของไทยที่เป็นที่นิยมในอินเดีย กระแสบรรจุภัณฑ์รักษาสิ่งแวดล้อม หรือ Green Packaging กำลังมาแรงไม่แพ้กัน เหตุผลเนื่องจากภาครัฐของอินเดียรณรงค์ลดการใช้พลาสติก และรัฐที่ขึ้นชื่อว่าใช้พลาสติกมากที่สุด และผลิตขยะพลาสติกมากที่สุดในประเทศ ได้ออกนโยบายลดการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารจากพลาสติก ตลอดจนรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนหันมาใช้บรรจุภัณฑ์รักษาสิ่งแวดล้อม ในการนี้ จึงได้จัดให้ บริษัท  Thai Paper Co., Ltd. - SCG Packaging ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายตลาดในอินเดีย ได้นำเสนอ Green Packaging ในรูปแบบต่าง ๆ  แก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ

                   จากการหารือและการศึกษาดูงานข้างต้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ไทยและอินเดียต่างมีศักยภาพด้านอาหารแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งการดำเนินโครงการของสถานกงสุลใหญ่ฯ นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่จัดให้ผู้กำหนดทิศทางธุรกิจ SMEs ของไทยและอินเดีย ได้จับเข่าหารือแนวทางการขยายช่องทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และเป็นกิจกรรมที่ประชาสัมพันธ์ให้นักธุรกิจอินเดียเห็นศักยภาพทางด้านอาหารของไทย และกระตุ้นให้นักธุรกิจกลุ่มนี้เลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการลทุน โดยเฉพาะในโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor - EEC

                   อีกสิ่งหนึ่งที่ฝ่ายไทยและอินเดียเห็นตรงกัน คือ นักธุรกิจไทยและอินเดียต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ซึ่งหอการค้าไทย และประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งรัฐคุชราต  มีแผนจัดประชุมร่วมมกัน รวมถึงจัดกิจกรรมศึกษาดูงาน และการจับคู่ทางธุรกิจ เพื่อให้สองฝ่ายได้สร้างความคุ้นเคย และเป็นโอกาสในการศึกษาแนวทางการขยายการค้าและการลงทุน

                   เพื่อต่อยอดจากโครงการฯ ข้างต้น และให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม สถานกงสุลใหญ่ฯ มีภารกิจในการติดตามและผลักดันให้ภาครัฐและเอกชน SMEs ของไทยและอินเดีย เสริมสร้างเศรษฐสัมพันธ์ระหว่างกัน       สู่ความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดกิจกรรมทางธุรกิจ และกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษ์ไทย โดยใช้ Soft Diplomacy การให้ข้อมูลด้านการค้าและการลงทุนแก่ผู้ประกอบการไทยและอินเดีย การประชาสัมพันธ์ให้นักธุรกิจไทยขยายตลาดสินค้าและบริการไปยังอินเดีย พร้อมกระตุ้นภาคเอกชนอินเดียให้มาค้าขายและลงทุนในไทย 

                   ผู้ประกอบการไทยที่มีสินค้าอาหารแปรรูปคุณภาพดีอยู่ในมือ จึงไม่ควรรีรอที่จะแสวงหาโอกาสการค้าและการลงทุนในอินเดีย สถานกงสุลใหญ่ฯ และทีมประเทศไทย ณ เมืองมุมไบ ได้แก่ สำนักงานการค้าในต่างประเทศ และสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ เมืองมุมไบ พร้อมสนับสนุนธุรกิจไทย เพื่อให้สินค้าไทยติดตลาด และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในประเทศที่มีประชากรกว่า 1.3 พันล้านคน

-----------------------------------

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ