วันที่นำเข้าข้อมูล 1 ก.พ. 2557
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
การมาทำงานนวด สปาที่เมืองมุมไบและจังหวัดใกล้เคียง
ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางมาประกอบอาชีพพนักงานให้บริการนวด สปา หรือพนักงานทำงานประจำร้านทำผมที่มุมไบหรือจังหวัดใกล้เคียง ขอให้ท่านไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ เหตุเพราะที่ผ่านมา มีหลายกรณีที่เกิดขึ้นกับหญิงไทยที่เข้ามาทำงานกับนายจ้างที่เมืองมุมไบหรือจังหวัดใกล้เคียงแล้วเกิดปัญหานานับประการ อาทิ โดนโกงค่าแรง ไม่ได้รับค่าจ้างตามที่สัญญา มาทำงานโดยไม่มีสัญญาจ้างงาน นายจ้างเอารัดเอาเปรียบชั่วโมงทำงาน และถูกยึดหนังสือเดินทางไว้เป็นประกัน
แม้รายได้ที่กล่าวอ้าง อาจจะเย้ายวนใจให้ท่านเดินทางมาทำงานในต่างแดน โดยท่านได้รับแจ้งว่าจะได้รับค่าจ้างจำนวนมากต่อเดือน (หลักแสนบาท ) แต่เมื่อมาถึงท่านอาจจะไม่ได้รับรายได้เท่าที่นายหน้าบอกท่านไว้ และทำให้รู้สึกว่าไม่คุ้มที่จะมาทำงานอยู่ที่อินเดีย เนื่องจากความเป็นอยู่ลำบากกว่าที่ประเทศไทย
สิ่งที่ท่านต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ อย่าหลงเชื่อคนที่ไม่มีตัวตน และคนที่ท่านเพิ่งรู้จักผ่านอินเตอร์เนต คนเหล่านี้อาจจะมีตัวตนหรือไม่มีก็ได้ แต่สิ่งที่ท่านจะต้องเจอหากหลงเชื่อ คือ ท่านต้องไปทนตรากตรำลำบากในต่างแดน เพื่อให้ได้รายได้ที่น้อยนิด และกินอยู่ในสภาพที่ยากลำบาก แร้นแค้นไม่เป็นไปตามที่ท่านวาดฝันไว้ รวมถึงท่านอาจจะโดนบังคับให้บริการพิเศษ หรือค้าประเวณี โดยที่ไม่สมัครใจก็ได้
ทำไมถึงเข้ามาแล้วมีปัญหา
เนื่องจากหากท่านเข้ามาทำงานในอินเดียในอาชีพพนักงานสปา ท่านจะต้องได้รับวีซ่าทำงาน (Employment Visa) และสำหรับบุคคลที่จะได้รับการพิจารณาวีซ่าประเภทนี้ จะต้องมีสัญญาจ้างที่ระบุค่าตอบแทนไว้ไม่น้อยกว่า 25,000 เหรียญสหรัฐต่อปี (หรือต้องมีรายได้ขึ้นต่ำอย่างน้อยเดือนละ 60,000 บาท) ซึ่งเจ้าของสปารายย่อย ส่วนใหญ่ไม่สามารถให้เงินเดือนขั้นต่ำที่ถูกกฎหมายในอัตราดังกล่าว และเพื่อให้ง่ายต่อการเข้ามาทำงาน โดยไม่ต้องถูกตรวจสอบโดยรัฐบาล เจ้าของสปาจึงมักให้ท่านทำวีซ่าประเภทท่องเที่ยวเข้ามาเพราะเจ้าของไม่จำเป็นต้องยื่นหลักฐานประกอบและหลักเกณฑ์ก็ไม่มากมายเท่า วีซ่าประเภททำงาน
การได้รับวีซ่าท่องเที่ยว เพื่อวัตถุประสงค์ในการท่องเที่ยว จึงไม่สามารถทำงานได้ การเข้ามาทำงานในสปาของท่านจะเข้าข่ายละเมิดกฎหมายแรงงานของอินเดีย รวมถึงผิดกฎหมายการเข้าเมือง หากถูกจับจะมีความผิดฐานเข้าเมืองผิดประเภท และความผิดฐานลักลอบทำงานในอาชีพต้องห้าม ซึ่งความผิดทั้งสองกระทงนี้เป็นความผิดที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมของอินเดียล่าช้าและยุ่งยาก รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำและห้องขังชั่วคราวก็ไม่สู้ดี นอกจากนั้น เมื่อถูกจับได้ ท่านจะต้องเสียเวลาในการรอการสืบสวนและส่งฟ้องศาล หรือถูกกันไว้เป็นพยานซึ่งใช้เวลานานมาก และท่านจะเสียโอกาส ไม่สามารถประกอบอาชีพ เนื่องจากต้องรอกระบวนการพิจารณาทางกฎหมายและไม่สามารถเดินทางไปไหนหรือกลับประเทศไทย
3. รายได้ดีจริงหรือ
การค้าประเวณีเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและการให้บริการเสริมที่นอกเหนือจากการให้บริการนวดและสปาแบบทั่วไป จะเข้าข่ายการค้าประเวณี ปัจจุบัน ตำรวจของอินเดียเริ่มใช้มาตรการสุ่มตรวจสถานบริการที่ให้บริการด้านการนวดและสปาเป็นระยะๆ นายหน้าอาจโฆษณาว่า ถ้าลูกค้าเยอะ รายได้รวมกับค่าทิปที่ท่านได้ต่อเดือนอาจรวมกันถึงเดือนละแสนบาท แต่ข้อเท็จจริงนั้น พนักงานนวดหรือสปาที่ทำโดยสุจริตอาจจะได้รายได้เพียงเดือนละสองหมื่นบาทเท่านั้น (รวมค่าแรง ค่าทิป และค่าล่วงเวลาแล้ว) ดังนั้น ท่านจึงควรคิดให้รอบคอบว่าการมาทำงานของท่านคุ้มค่ากับเงินที่จะได้รับต่อเดือนหรือไม่
หากประสงค์จะมาทำงานอย่างถูกกฎหมาย ต้องมีสัญญาการจ้างงานที่ถูกต้องจากบริษัทและมีการขอรับวีซ่าประเภททำงานที่ถูกต้องจากนายจ้าง (ติดต่อโรงแรมห้าดาวหรือร้านสปาที่น่าเชื่อถือเท่านั้น)
โปรดอย่างหลงเชื่อนายหน้าที่บอกว่าสามารถทำวีซ่าทำงานให้แก่ท่านและประกันรายได้ให้ท่านได้ เนื่องจากนายหน้าเหล่านี้ มิได้เคยมาทำงานที่อินเดีย มีแต่มุ่งหาประโยชน์จากท่านด้วยการเก็บค่าหัวคิวเท่านั้น
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ
31 มกราคม 2557